วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

🌸 น้องน้อยที่รัก : บทที่ 3 (4) Last Sample

นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

บทที่ 3 (4)


          ... คนยอมรับปาก ... 
          สุดท้ายก็ยังสามารถอ้างโน้นอ้างนี้ได้สารพัด 
          แล้วครั้งนี้ เขาต้องไปไกลเสียขนาดนั้น ต่อให้ 'มีเงิน' มากมายสักแค่ไหน .. แต่ในเมื่อต้องไปรับตำแหน่งใหม่ 
          ย่อมต้องมีข้ออ้างใหม่มาว่า 'ไม่มี .. เวลา'
          ก็เขาเองมิใช่หรือ..ที่เคยพร่ำสอนมาเมื่อเยาวัย 
          ที่เมื่อยามเด็กหญิงสายธารมัวแต่โยเยโอ้เอ้ เคี้ยวข้าวช้า ..จนทำให้พี่ชายพลอยเสียเวลาในการเดินทางไปโรงเรียนสาย เสียด้วยกัน
          สุดท้ายเช้านั่น .. คนขี้หงุดหงิด .. จึงหันมาลงที่น้อง
          "มีเงินมาก ..ก็ใช่ว่าจะซื้อเวลามาได้มาก.. กว่าคนอื่น"
          ".. คนทุกคน .. วันหนึ่งมียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน ขืนคุณน้ำ คิดแค่ว่าเรามีเงินมาก ๆ อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไปกับ อะไรแล้ว .. แค่นี้คุณน้ำก็คิดผิดแล้วล่ะค่ะ"
          แต่คนเป็นน้องยังคงออกความเห็นโต้กลับมา .. ตาแป๋ว ๆ
          "ซื้อเวลาไม่ได้..ได้อย่างไรคะ? เพราะหากเราไม่มีกะตัง เราเก๊าะ..ต้องเดินไปโรงเรียน การเดินไปโรงเรียนเราก็ต้องใช้ เวลามากกว่าคนที่มีสตางค์ขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนนี่คะ? พี่ต้นจะ ว่าเงินซื้อเวลาไม่ได้ ... ได้อย่างไร"
          "เอ๊า!! .. ก๊อ" พี่ชายเถียงไม่ออก ได้แต่เกาหัวแกรก ๆ
          "งั้นมี .. ก็ได้ แต่อย่าไปให้ความสำคัญกับมันมาก จนเรา กลายไปเป็นทาสของมัน เราต้องใช้เงินให้เป็นบ่าว อย่าปล่อย เผลอให้มันมาครอบงำ ..จนมันกลายมาเป็นนายเรา.. ..คุณน้ำ.. เข้าใจที่พี่บอกตรงนี้หรือเปล่าล่ะ" ไม่วายเยาะเย้ยน้อง
          "จะยากตรงไหนคะ? เราก็เอาเงินที่เราหามาได้ เอาไป จ้างแม่ค้าเพื่อมาทำกับข้าวให้เรากิน หรือที่เรียกว่าซื้อเขากิน คล้าย ๆ อย่างนี้หรือเปล่าคะ?" น้องน้อยพาซื่อ นึกว่าพี่ชายตั้ง คำถามมาถาม เลยตอบเขาไป..ตาแป๋ว ๆ อีกครา
          "ใช่ค่ะ..แล้วเราก็จะได้ทำงานจนเหนื่อย..จนหัวทิ่มหัวตำ รับจ้างเป็นลูกจ้างคนอื่นงก ๆ เพื่อที่จะได้เอาเงินของเขามาจ้าง คนอื่นต่อไปไงล่ะ" พี่ชายประชด
          "คุณน้ำว่า .. มันเป็นการพึ่งพาอาศัยกันโดยการใช้เงิน เป็นสื่อกลางต่างหาก" คนเป็นน้องรู้มากกว่า เพราะบิดาเคย สอนเรื่องนี้อีกเช่นกัน 
          "เพราะเราคงทำอะไร ๆ ต่อมิอะไรเองทุกอย่างในชีวิต ของเราเองไม่ได้ทั้งหมดนี่คะ คุณน้ำขับเครื่องบินไม่ได้ หาก ไม่ใช้เงินมาซื้อตั๋วไปขึ้นเครื่องบินที่คนอื่นขับ แล้วคราวนี้พี่ต้น จะให้คุณน้ำว่ายน้ำ หรือพายเรือไปดูดอกซากุระที่ญี่ปุ่นหรอก หรือคะ? แก่ตาย หรือไม่ก็โดนไอ้หลามคาบไปเคี้ยวกรุบกริบ เล่นได้เลยนะคะ"
          "ถึงอาคารเรียนแล้วค่ะ คุณน้ำ..ถือกระเป๋าเดินเข้าห้อง ไปเองคนเดียวนะคะ พี่ไปล่ะ!!"
          คนเป็นพี่โกรธจนหน้าเขียว ... ไม่ยอมจูงมือน้องเดินไป ส่งถึงห้องเหมือนเช่นเคยทำอย่างทุกเช้า
          เดินก้าวสวบ ๆ .. หายไปท่ามกลางหมู่นักเรียนเด็กโต ๆ ปล่อยคนเป็นน้องยืนมองตามหลังไปตาปริบ ๆ  ... 
          และต่อจากนั้นมา การจะเอ่ย .. จะพูดอะไรอีกแต่ละครั้ง เด็กหญิงสายธารจึงมักจะหมั่นมองสีหน้า เพราะเกรงว่าพี่ชาย จะโกรธ จะตะคอกใส่ตนอยู่ร่ำไป
          และครั้งนี้เองก็เช่นกัน ที่ต้องรู้ซึ้งอยู่แก่ใจ 
          พี่ชาย..ต่อให้โตมาแล้วจะใจดี สุภาพ อ่อนโยนกับน้อง น้อยมากแค่ไหน .. แต่ ..
          ... หากลงเขาบอกว่า 'ไม่' ก็คือ .. ต้องไม่!!!่
          ... หากเขาบอกว่าจะ 'ไป' ก็คือ .. ต้องไป!!!
          บทกลอนเก่าที่พี่ชายคนเก่งเคยแต่งเล่น 
          ... ก้องขึ้นอยู่ในความทรงจำ ...
          แค่หลับตา ...
          มือแตะใจ จะได้พบ
          แค่เพียงสบ ...
          นัยตาดาว พร่างพราวฝัน
          แค่โอบแอบ ...
          แนบดวงใจ อันนิรันดร์
          ผูกสัมพันธ์ ... หอบรักข้าม 
          ปลายฟ้าไกล ... 
          ปลายฟ้าไกล ... 
          ที่ต่อไปคงจะได้ชื่อว่า ... 'นิวซีแลนด์'
          ... ต่อให้เธอก้มลงร้องไห้โยเยจนตัวงอ 
          ครั้งนี้ ... พี่ชายคงไม่มีวันตามใจเธอ .. อีกแล้ว
           .. ลา .. มิละลา .. 
          ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน .. พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา
          รักซ้อนแซมด้วยใบโศก รักซ้อนแซมด้วยใบโศก
          น้ำตาน้องนองตก .. ที่พี่เพิ่งมาบอกลา ..
          เริ่มต้นพี่ก็ไม่รัก .. ลงท้ายพี่ก็ไม่รัก
          ทิ้งน้องอกหักข้างต้นมะลิลา... 

          เสียงเพลงแซวเก่า ๆ จากวิทยุของนายแม้นคนสวน 
          .. แว่วมาตามลม .. ราวกับจะ 'เย้ยเยาะ' คนอยู่ข้างหลัง
          อย่างไร ... ก็อย่างนั้น

คำชี้แจงจากใจนักเขียน

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ มีกลิ่นไอที่นักอ่านตัวยงบางท่านอาจตะหงิดใจสงสัย
ซึ่งในความเป็นจริง 'ไรต้ามือใหม่มาก' ...จะว่าไป ก็ไม่อาจเอ่ยได้ไม่เต็มปาก มิกล้าเปรียบเทียบอะไรเลย ... แต่เพื่อกันความสงสัยแคลงใจในภายหลัง
จึงขอแจ้งและแจงให้ทราบว่า 
นิยายเรื่อง 'น้องน้อยที่รัก' เรื่องนี้
ไรต้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายเล่มโปรดมาก ๆ เล่มหนึ่ง
ซึ่งนิยายเล่มรักเรื่องนั้นคือ ... 
... 'พี่เลี้ยง' ... ของท่านนักเขียน ... 'ทมยันตี' ... 
บุคคลที่ไรต้ายืดถึงเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ไรต้าจะสามารถก้าวตามท่านได้..ในเส้นทางนักแต่งนิยายที่รักความสงบสุขผู้หนึ่งก็เท่านั้น
ดังนั้น ... เจตนาที่ตั้งใจแต่งนิยายเรื่องนี้
ก็มิได้มุ่งหวังหรือเจตนาไม่ดีใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งปวง
ไรต้าเพียงแค่อยากเก็บกลิ่นไอนิยายที่ตนรัก .. มาไว้ในรูปแบบที่ตนจินตนาการของตนเองเท่านั้นเองค่ะ
... หวังว่านักอ่านจะเข้าใจ ...
แตะรับ Link เพื่อโหลดเล่มเต็มได้ที่รูปภาพของแต่ละเรื่องนะคะ สู้ๆ

🌸 น้องน้อยที่รัก : บทที่ 3 (3)

นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

บทที่ 3 (3)


          เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่ก้าวใกล้เข้ามา 
          ..ไม่ต้องเงยหน้า.. ร่างบางก็รับรู้ว่าคือผู้ใด 
          จนกระทั่งร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
          "ให้พี่ช่วยติวให้เอาไหมคะ?"
          "ไม่เป็นไรค่ะ วิชานี้ค่อนข้างง่ายอยู่" 
          เสียงอ่อนเบาตอบสุภาพ ก่อนเงยหน้ามายิ้มให้พี่ชาย .. จนดวงตาพราวประกายยิบหยี .. ซึ่งคนมองกลับรู้ดีว่า .. กิริยา เช่นนี้ เป็นอาการที่กำลังต้องการหลบหลีก หรือกำลังจะกลบ เกลื่อนความในใจของคนเป็นน้อง
          "แบบแปลนเรือนหอ ..คุณน้ำ..ไม่คิดที่จะขอดูมันบ้างสัก หน่อยหรือ?" เสียงทุ้มถาม ... อ่อนโยน
          "ไม่ค่ะ .. พี่ต้นคงออกแบบมาดีแล้ว"
          "ยังไม่เคยเห็นสักครั้งเลย .. รู้ได้อย่างไรคะ..ว่าดี" 
          คนพี่อารมณ์ดี ยิ้มได้บ้าง
          "อะไรที่พี่ต้นตั้งใจทำให้คุณน้ำ .. สิ่งนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ดี ที่สุดเสมอ .."
          ตาใส ..ซื่อ.. ที่มากับน้ำเสียงใส ๆ ไม่บ่งบอกสักนิดว่า แอบแฝงไว้ด้วยร่องรอยประชด .. หากแต่เหมันต์รู้ชัดในรอยนี้ ดังนั้นคำตอบต่อมาจึงทั้งสั้น ทั้งเบา 
          "ค่ะ"
          สายธารก้มหน้า..ทำรายงานต่อ เหมือนเป็นเชิงไล่
          แต่เงาของร่างสูงก็ยังไม่ยอมจะขยับเขยื้อนลุกจากไป
          "อยู่ที่โน้น ... " 
          นานเท่านาน .. ที่เจ้าของเสียงใสจะยอมพูดคุยด้วยต่อ เพราะเริ่มแน่ใจว่าผู้เป็นพี่ก็มิยินยอมแพ้ให้กับสงครามประสาท ที่ผู้น้องเป็นฝ่ายเริ่มแน่นอน .. คำถามจึงได้ถามโดยไม่ได้เงย หน้าขึ้นมาอีก
          "คงไม่สะดวกสบายเหมือนที่นี่ อาหารการกินคงไม่ถูก ปาก พี่ต้นจึงได้ทั้งผอมทั้งดำ หากเป็นอย่างนั้น .. ทำไมพี่ต้น ต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย .. กลับมาไม่ได้หรือคะ?" 
          ในประโยค..อดไม่ได้ที่จะแฝงร่องรอยห่วงใยฉายชัด
          "กลับได้สิ" 
          ก่อนตอบพี่ชายหัวเราะเสียงทุ้ม .. แสดงว่าอารมณ์เริ่ม กลับมาดีแล้ว คงเพราะคำถามแฝงรอยห่วงใยนั้นอย่างไรล่ะ 
          "แต่..คงต้องรอก่อน คุณอาอาคมบอกว่าจะส่งพี่ไปดูแล งานที่ทางฟากนิวซีแลนด์ .. หากเสร็จจากโปรเจคนี้แล้ว"
          คราวนี้คนเป็นน้อง ยอมเงยหน้านวลแฉล้มขวับขึ้นมา มอง ใบหน้าหวานเหยเก..ราวกับคนโดนอมยาขม
          "ทำไมต้องไปไกลด้วย? แล้วไปนานไหม? ทำไมคุณพ่อ ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้คุณน้ำได้ยินมาก่อน"
          คำถามระรัวโวยวายไร้ช่องไฟ แถมหน้าขาว ๆ ก็ดูราว กับคนจะร้องไห้ .. จนคนถูกถามอดยิ้มไม่ได้อีกครา
          "ตอนนี้พี่เป็นคนของคุณอาอาคมนี่คะ หัวหน้าเขาสั่งมา อย่างไร ลูกน้องขัดใจได้หรือ?"
          "คุณอาอาคมก็ลูกน้องของคุณพ่อ ก็เห็นขัดใจกันได้อยู่ บ่อย ๆ ไปนี้คะ" 
          คนน้องกระเง้ากระงอด ราวกับจะกลับมาเป็นเด็กหญิง สายธารคนเก่า
          "ไม่เอาค่ะ คุณน้ำไม่ให้พี่ชายไปหรอก"
          รื้อน้ำตาเริ่มเผาะพราว จนคนเป็นพี่ชายใจหายวาบ 
          เพราะไม่ว่าจะครั้งใด .. ก็ไม่เคยชนะน้ำตาของน้องสาว คนนี้ได้เลยสักครา

          กลิ่นดอกราตรียามค่ำอบอวลตามลม มาสู่บุคคลทั้งสอง  ราวปลอบประโลม
          เหมันต์ยกข้อนิ้วขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้น้องน้อย ดังเช่นที่เคย ทำยามตอนเป็นเด็กเล็ก ๆ กันในกาลก่อน
          ดวงหน้าเข้มใต้เงาแสงไฟ .. ซ่อนรอยที่มิอาจให้ใครเห็น
          ยอดรัก....
          หากพี่เลือกได้ 
          พี่คงอยากดูแลน้องน้อยของพี่นี้ตลอดไป
          หากแต่ทุกหนทางเลือกในชวิต ...
          ... มักเป็นสิ่งที่เลือกได้ไม่ 'ง่าย' นัก
          ทุกสิ่งทุกอย่างยังต้อง 'แลก' มากับบางสิ่ง .. เสมอ
          น้องน้อยไม่มีวันรู้ว่า .. ทุกครา..ยามห่างไกล
          ความรู้สึกหนักหน่วงหนึ่งในใจ..มันมักจะวนเวียนมาคอย เล่นงานพี่ชายคนนี้อยู่เสมอ ๆ
          ที่แท้ .. 'ความผูกพัน' ..มันซ่อน.. 'ความเจ็บปวด'
          แค่ ..คิดถึง.. 
          ก็ยังจะนำมา..ซึ่ง..'ความร้าวราน'..อยู่..มิรู้หาย 
          "ห้าปี ..หรือไม่ก็คงอาจสัก..สิบปี.. พี่ต้องไปรับตำแหน่ง คุมทีมบริหารที่นั่น"
          "แล้วจะกลับมาบ่อย ๆ ได้ไหม?" 
          ร้องขอสีหน้าเว้าวอนยิ่ง ทั้ง ๆ ที่แน่ใจนัก ..
          ไม่ใช่ก่อนหน้านั่นหรอกหรือ ที่เธอเองก็เฝ้าวนเวียน..วิ่ง ไปเคี่ยวเข็นขอสัญญาว่าให้เขากลับมาบ้านทุก ๆ เดือน

คำชี้แจงจากใจนักเขียน

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ มีกลิ่นไอที่นักอ่านตัวยงบางท่านอาจตะหงิดใจสงสัย
ซึ่งในความเป็นจริง 'ไรต้ามือใหม่มาก' ...จะว่าไป ก็ไม่อาจเอ่ยได้ไม่เต็มปาก มิกล้าเปรียบเทียบอะไรเลย ... แต่เพื่อกันความสงสัยแคลงใจในภายหลัง
จึงขอแจ้งและแจงให้ทราบว่า 
นิยายเรื่อง 'น้องน้อยที่รัก' เรื่องนี้
ไรต้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายเล่มโปรดมาก ๆ เล่มหนึ่ง
ซึ่งนิยายเล่มรักเรื่องนั้นคือ ... 
... 'พี่เลี้ยง' ... ของท่านนักเขียน ... 'ทมยันตี' ... 
บุคคลที่ไรต้ายืดถึงเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ไรต้าจะสามารถก้าวตามท่านได้..ในเส้นทางนักแต่งนิยายที่รักความสงบสุขผู้หนึ่งก็เท่านั้น
ดังนั้น ... เจตนาที่ตั้งใจแต่งนิยายเรื่องนี้
ก็มิได้มุ่งหวังหรือเจตนาไม่ดีใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งปวง
ไรต้าเพียงแค่อยากเก็บกลิ่นไอนิยายที่ตนรัก .. มาไว้ในรูปแบบที่ตนจินตนาการของตนเองเท่านั้นเองค่ะ
... หวังว่านักอ่านจะเข้าใจ ...
แตะรับ Link เพื่อโหลดเล่มเต็มได้ที่รูปภาพของแต่ละเรื่องนะคะ สู้ๆ

🌸 น้องน้อยที่รัก : บทที่ 3 (2)

นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

บทที่ 3 (2)


          "ที่เรือนทับทิม มีอะไรต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกบ้างไหม?" 
          คุณธันวาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ที่ต่างรับรู้กันอยู่เงียบ ๆ ว่าน่าอึดอัด ..แต่ไม่ว่าจะอย่างไร.. ก็คงไม่มีทางเลี่ยงความจริง นี้กันไปได้
          เหมันต์ ..อดไม่ได้.. ที่จะแว่บสายตาไปมองมือขาวนวล อ่อนบางที่ยังสามารถตักอาหารเข้าปากได้อย่างปกติ .. อาการ นิ่งเฉยราวกับเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ เลยแม้สักนิด
          "ไม่มีปัญหาครับ เมื่อบ่าย ๆ .. ผมแวะเข้าไปดูรอบหนึ่ง แล้ว กำแพงไม่มีร้าว หลังคาไม่มีรอยน้ำหยด แปลว่าหลังคากับ การปูพื้นของเรายังได้มาตราฐานตามที่คาดไว้ครับ"
          เสียงทุ้มนุ่มรายงาน
          "คืนนี้ผมจะตรวจแบบแปลนอีกครั้ง แล้วพรุ่งนี้เช้า จึงจะ ส่งแบบร่างการตกแต่งภายในที่ออกแบบไว้คร่าว ๆ ส่งไปให้ ทีมคุณลุงเกลาแบบแปลนมาให้ใหม่ จากนั้น..ก็คงเริ่มลงมือกัน ได้เลย"
          เหลือบตามองคนตรงข้าม .. สาวน้อยวางช้อน เพราะ เพียงแค่คนเป็นพี่ชายขยับผ้าเช็ดริมฝีปาก .. บ่งบอกอาการว่า 'อิ่มแล้ว' คนเป็นน้องก็ขยับลุก ... เดินไปปรุงกาแฟ สักเดี๋ยวก็ เดินกลับมาส่งแก้วสีคล้ำหอมกรุ่น ... เลื่อนให้
          อีกครั้งที่คุณธันวากับคุณยมนา .. ลอบมองสบตากันอยู่ เงียบ ๆ 
          ... เสียดาย ...
          "แล้ว..หมู่นี้ ทำไมนายการันต์เขาไม่ค่อยแวะมาบ้างเลย คะ? คุณน้ำได้แอบไปแผลงฤทธิ์อะไรเงียบ ๆ ใส่เขาอยู่หรือ เปล่า"
          บิดาหันมาไถ่ถามหลังจากเพิ่งจะนึกได้ว่า .. ว่าที่เจ้าบ่าว ของลูกสาว..หายหน้าหายตาไปนานจะเกือบเดือนแล้วสินี่ และ โดยที่ไม่วายจะเดาทางดักคอ เพราะย่อมรู้อิทธิฤทธิ์บุตรสาว ได้ดีอยู่
          สายธาร .. แม้บางครั้งจะชอบทำตัวงอแงราวเป็นเด็ก ๆ ที่มักจะถูกเลี้ยงดูกันอย่างตามใจ โวยวาย แง่งอน..ยามโกรธ กรุ่น แต่ก็ยังไม่เคยดูน่ากลัวเท่ากับ .. ยามที่บุตรสาวทำท่าสงบ เฉยเมย ไม่ใส่ใจ เพราะท่าทีเช่นนี้ช่างเดาใจได้ยากยิ่ง 
          พอ ๆ กันกับพี่ชายของเธออีกนั่นแหละ
          "คุณน้ำไม่ค่อยว่างต้อนรับค่ะ .. เพราะต้องเตรียมตัว อ่านหนังสือสอบเทอมสุดท้ายหนักมาก เลยบอกเขาว่าไม่ต้อง แวะมาบ่อย ๆ ค่ะ .. เพราะถึงมาหา .. คุณน้ำเองก็ไม่เคยว่าง จะมาคุยด้วย" 
          คุณธันวาถึงกับอ้าปากร้อง 'อ้าว?' หลังจากที่บุตรสาว ตอบกลับมาเสียงเรียบ ๆ ราวกับกำลังรายงานเรื่อง..ต้นผักกาด ในกระถางที่เธอปลูกไว้ส่งเป็นการบ้าน เมื่อสมัยยามยังเป็นแค่ เด็กนักเรียนมัธยมต้น 
          "แล้วกันสิ งั้น..ก่อนส่งแบบก็โทรฯเรียกมาก็แล้วกัน" 
          สรุปให้
          "หมอนั่นเขาร้องจะเอาเรือนหอใหม่ .. แต่ก็อย่างว่าล่ะ .. อยู่บ้านไม้ทรงไทยเก่า ๆ แบบเรา คนหัวสมัยใหม่จบจากนอก แบบเขามันไม่คุ้นไม่ชิน ..วันนี้พี่เขามาแล้ว พรุ่งนี้เช้าถ้าเจ้านั่น ว่างก็เรียกให้เขาเข้ามาดูเถอะ เผื่ออาจจะอยากเพิ่มเติมเปลี่ยน แปลงอะไรอีก"
          "คงไม่ต้องแล้วล่ะค่ะคุณพ่อ เรียกมาเดี๋ยวก็ขอเปลี่ยน นั้น ร้องขอเพิ่มนี่ .. จนคุณน้ำรู้สึกว่าจะน่ารำคราญแล้วค่ะ" 
          ถ้อยเจรจาแม้จะดูไม่พอใจ แต่สีหน้าใสกับน้ำเสียงก็ยัง คงเฉยเมยเช่นเคย
          "ปลูกเรือน ... ต้องตามใจผู้อยู่สิคะคุณน้ำ"
          น้ำเสียงบิดาแลดูจะทอดถอนใจอ่อนเบา..แต่ยาวเหยียด
          "แม้มันจะดูเป็นเรือนที่เราไม่อยากอยู่..แต่หากมันจำเป็น ที่เราจะต้องอยู่..จะผุจะพังยังไง เราก็ต้องหมั่นต่อเติมซ่อมแซม บำรุงรักษาให้มันคงอยู่ในแบบที่มั่นคงที่สุด ..พอใจที่สุด..ให้ได้ เพราะอย่างไรเสีย ..มันก็คือเรือนของเรา ที่เราจะต้องอยู่.." 
          "แรกเริ่มต้น คุณน้ำอาจจะพบว่ามันช่างดูทุกข์ดูยากไป บ้าง แต่ถ้าหากเราหมั่นซ่อม หมั่นเติม บางทีสุดท้าย .. คุณน้ำ อาจจะพบก็ได้ค่ะว่า เจ้าเรือนนี้มันช่างเป็นเรือนที่น่าอยู่ .. และ เหมาะที่จะอยู่อาศัยด้วยที่สุด..ก็เป็นได้"
          พร่ำสอน...และแลดูราวกับจะปลอบโยนบุตรีอยู่ในที
          คุณยมนาที่นั่งฟังการสนทนาอยู่เงียบ ๆ เริ่มหน้าเหยเก อีกครั้ง
          "การันต์เขาเป็นคนดีนะลูก แม้จะดูว่าท่าทางหุนหัน และ ก็ใจร้อนไปบ้าง...หัวสมัยใหม่ไปบ้าง"
          น้ำเสียงอ่อนเบาของผู้เป็นมารดาไม่รู้จะปลอบใจลูกสาว อย่างไรดี .. แต่ยิ่งปลอบก็ดูเหมือนจะยิ่งแย่ .. แม้จะพยายาม
          "ฐานะ ความรู้ หน้าที่การงานของเขาก็มั่นคงเหมาะสม กับคุณน้ำดีแล้วนะคะ"
          ยิ่งพูดอีกก็ยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก จนหญิงสูงวัยชักสับสน
          ..แม้มันจะเป็นไปตามนั้นจริง ๆ หากแต่อะไรบางอย่างก็ ยังจะทำให้คุณยมนารู้สึกเกรงใจสามีและชายหนุ่มอ่อนวัย ที่ ตนเองรับอุ้มชูเลี้ยงดูกันมาอีกผู้หนึ่งอยู่ลึก ๆ มิได้
          แม้จะเดาใจหนุ่มน้อยเคร่งขรึมผู้นั้นมิได้มาก เฉกเช่นผู้ เป็นสามีรู้สึก หากแต่กิริยาอ่อนน้อม อ่อนโยน ความสุขุมมั่นคง ที่แสดงออก ก็อดทำให้ต้องรักษาน้ำใจกันบ้าง ดังนั้น..เมื่อหลุด ปากพูดอะไรไป จึงทำให้หวั่นใจว่าจะไปกระทบความรู้สึกของ ใครเขาเข้า
          "ค่ะ" 
          นานเท่านาน บุตรสาวจึงจะตอบรับคำมารดา
          "พรุ่งนี้ ..คุณน้ำมีเรียนแต่เช้าเลย.. รายงานก็ยังไม่เสร็จ ขออนุญาตไม่รับของหวาน ..ขอตัวออกไปจัดการรายงานก่อน ได้ไหมคะ?" 
          เสียงใส ๆ ร่าเริงเอ่ยราวกับจะกลบรอยอึดอัดใจของผู้ เป็นมารดาและบิดา โดยไม่รอคำอนุญาต หน้าใส ๆ ก้มลงหอม แก้มมารดาที่อยู่ใกล้ก่อนยื่นหน้าไปแตะแก้มผู้เป็นบิดา  ซึ่งเป็น กิริยาอบอุ่น ที่มักกระทำอยู่เป็นประจำของครอบครัวนี้

คำชี้แจงจากใจนักเขียน

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ มีกลิ่นไอที่นักอ่านตัวยงบางท่านอาจตะหงิดใจสงสัย
ซึ่งในความเป็นจริง 'ไรต้ามือใหม่มาก' ...จะว่าไป ก็ไม่อาจเอ่ยได้ไม่เต็มปาก มิกล้าเปรียบเทียบอะไรเลย ... แต่เพื่อกันความสงสัยแคลงใจในภายหลัง
จึงขอแจ้งและแจงให้ทราบว่า 
นิยายเรื่อง 'น้องน้อยที่รัก' เรื่องนี้
ไรต้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายเล่มโปรดมาก ๆ เล่มหนึ่ง
ซึ่งนิยายเล่มรักเรื่องนั้นคือ ... 
... 'พี่เลี้ยง' ... ของท่านนักเขียน ... 'ทมยันตี' ... 
บุคคลที่ไรต้ายืดถึงเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ไรต้าจะสามารถก้าวตามท่านได้..ในเส้นทางนักแต่งนิยายที่รักความสงบสุขผู้หนึ่งก็เท่านั้น
ดังนั้น ... เจตนาที่ตั้งใจแต่งนิยายเรื่องนี้
ก็มิได้มุ่งหวังหรือเจตนาไม่ดีใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งปวง
ไรต้าเพียงแค่อยากเก็บกลิ่นไอนิยายที่ตนรัก .. มาไว้ในรูปแบบที่ตนจินตนาการของตนเองเท่านั้นเองค่ะ
... หวังว่านักอ่านจะเข้าใจ ...
แตะรับ Link เพื่อโหลดเล่มเต็มได้ที่รูปภาพของแต่ละเรื่องนะคะ สู้ๆ

🌸 น้องน้อยที่รัก : บทที่ 3 (1)

นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

บทที่ 3 (1)


          ตาใหญ่กว้างของผู้สูงวัยแลกวาดกลับมามองยังผู้มีศักดิ์ เป็นลูกชายในอุปการะอีกครั้ง 
          ผมดกหนาดำขลับ จมูกโด่งเป็นสันเห็นได้ชัด ... ก้มหน้า ก้มตาอยู่ที่จานอาหาร แพขนตาหนายาวตรงล้อมกรอบดวงตา ยาวรี  ที่คุณธันวาเจนใจว่ามักมีประกายซื่อตรงมุ่งมั่น .. ไม่ต่าง ไปจากบิดาผู้ซื่อสัตย์ของเขาเลยสักนิด
          หากเป็นไปได้ .. เขาเองก็อยากที่จะรักษาสัญญาไว้ให้ ได้ทั้งหมด 
          ภาพจำยังติดตา 
          ... กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง ... 
          ท่ามกลางความมึนงง..เสียงเอะอะและความและยับเยิน
          "ลูก..เมียพี่.." 
          แม้แต่เวลาที่ใกล้จะลมหายใจสุดท้าย .. คนเป็นหัวหน้า ของครอบครัว..มิวายจะห่วงหาและกังวลถึง
          "ฝากดูแล .. ด้วยนะครั .." 
          สิ้นคำสั่งเสียอ่อนเบาสุดท้ายที่กล่าวได้ .. ศรีษะชุ่มเลือด ก็ตกห้อย .. พร้อมลมหายใจสุดท้ายที่ขาดหาย
          ..........
          แต่ .. 
          'ชีวิต' มันไม่ใช่สิ่งง่ายดายที่จะกำหนด หรือควบคุม
          ดูอย่างเขาหรือ หากเป็นได้ เขาเองก็จะยินดีมากกว่า หาก 'สองพี่น้อง' จะรักใคร่ดูแล..ห่วงใยกันและกันตลอดไป .. ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ... เขาก็เชื่อแน่ว่า 
          'เหมันต์ ... จะมิมีวันทอดทิ้งน้องน้อยของเขาแน่นอน'
          แต่ดูหรือ ...
          มรสุมชีวิตก็กลับพัดพาคนที่ไม่เคยนึกอยากพึ่งพิงผู้ใด  
          สุดท้ายสายลมก็หอบซัด ให้จำต้องไปหลบใต้ต้นตะบอง เพชรอย่างคุณภิรมณ์เข้าให้จนได้ .. และหากคุณธันวาจะไม่ คาดคิดมาก่อนว่าผู้ที่ต้องมารับกรรมชดใช้จะกลายมาเป็นบุตร สาวสุดรัก ...
          ในตอนนั้น เขาจะยังร้องขอความช่วยเหลือนั่นอีกไหม?
          คำตอบหรือ ... ต่อให้ถึงเวลาจริง ๆ ที่ไม่ว่าจะอย่างไร ... คุณธันวาก็จำต้องเหลียวหันมามองบรรดาเหล่าลูกน้อง บริวาร พนักงานบริษัทฯ ในปกครองของเขาอยู่ดี
          'หนึ่ง .. หรือจะแลก .. หลาย'
          สุดท้าย ... เขาก็ยังจำต้องเลือกฟางซ่อนหนามแหลมนั้น เอาไว้อยู่ดีนั่นละ!!
          คนเป็นผู้นำ ... 
          จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขส่วนตนคนเดียว..ได้หรือ?
          ลอบผ่อนลมหายใจหนัก ๆ อยู่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ตาก็ยังคงหยุดอยู่ที่หนุ่มน้อย 
          ... รูปร่างสูงสง่า คล้ำเข้มขึ้น และแลดูจะซูบผอมลง ...
          ดวงหน้าหล่อเหลาคมสัน เงียบขรึม..มิใคร่จะอ่านเดาใจ ได้ง่ายดายนัก
          แม้จะเห็นหน้ากันมาแต่เยาวัย วิ่งเล่น วิ่งไล่กันอยู่สองคน พี่น้อง
          คุณธันวา ก็สุดที่จะเดาใจหนุ่มน้อยผู้เคร่งขรึมคนนี้ได้ มากเท่าไหร่ เพราะพอหลังจากสิ้นคุณวรารัน 'เด็กชายเหมันต์'
          จากเด็กซุกซนที่เที่ยวมุดโน้น ปีนนี้นั่น ก็กลับเงียบขรึม ขึ้น .. จนดูคล้ายกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทันตา 
          จำภาพติดตาของเด็กชายหุ่นเก้งก้าง ศรีษะเลี่ยนโล่ง ที่ เพราะเพิ่งละออกมาจากชายผ้าเหลือง 
          .. ยืนกอดห่อกระดูกสีขาว..ของผู้เป็นมารดาอยู่แนบอก 
          ... น้ำตาลูกผู้ชายไม่มีให้เห็นสักนิดหรอก ...
          ... แต่ความหม่นหมองอาดูร มีหรือที่ใครจะไม่รู้สึก ...
          ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ดูราวกับจะเกาะกุมกลืนร่างเข้ม เก้งก้างสูงโย่งให้หายไปจากหมู่ผู้เฝ้ามอง ..อาการนั้น.. เรียก ความสลดหดหู่เหลือล้ำจนมิมีผู้ใดจะกล้ากล้ำกราย เพราะกลัว ร่างผอมจะสลาย..หายไปอีกคน
          จะมีก็เพียงแต่เด็กหญิงสายธาร ..
          ที่เดินเข้าไปจับอีกมือที่ว่างเปล่าของพี่ชายเอาไว้เงียบ ๆ 
          'พี่ชาย' .. คงรู้สึกถึงความอบอุ่นนั่น
          จึงก้มหน้าลงมามอง 'น้องน้อย' นิ่ง .. นาน
          นัยตาที่เคยแจ่มกระจ่างใส .. บัดนี้ดู .. โศก สลด ..
          รับรู้ว่าต่อไปจะไม่มีอารันคนดีทำขนมสวย ๆ อร่อย ๆ ให้ ..ต่อไปจะไม่มีใครเดินมาตัดสินคดีความให้พี่น้อง.. และต่อไป ก็จะไม่ได้ยินเสียงพร่ำบ่นหรือไล่ตะเพิดพี่ชายให้ไปอาบน้ำขัด ขี้ไคลอีกต่อไปแล้ว
          "อารันอยู่กับเรา ...ตรงนี้..."
          น้องน้อย..เอื้อมมืออีกข้างที่อบอุ่นไม่แพ้มือที่ประทับมั่นบน มือใหญ่กว่า ... แตะ 'หัวใจ' ของพี่ชาย

          คุณยมนาถึงกับน้ำตาร่วงเผาะ ... เพราะกั้นไม่อยู่ 
          ในขณะที่ป้าแก้วต้องยกชายแขนเสื้อลูกไม้สีดำ แอบหัน ไปซับน้ำตา

คำชี้แจงจากใจนักเขียน

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ มีกลิ่นไอที่นักอ่านตัวยงบางท่านอาจตะหงิดใจสงสัย
ซึ่งในความเป็นจริง 'ไรต้ามือใหม่มาก' ...จะว่าไป ก็ไม่อาจเอ่ยได้ไม่เต็มปาก มิกล้าเปรียบเทียบอะไรเลย ... แต่เพื่อกันความสงสัยแคลงใจในภายหลัง
จึงขอแจ้งและแจงให้ทราบว่า 
นิยายเรื่อง 'น้องน้อยที่รัก' เรื่องนี้
ไรต้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายเล่มโปรดมาก ๆ เล่มหนึ่ง
ซึ่งนิยายเล่มรักเรื่องนั้นคือ ... 
... 'พี่เลี้ยง' ... ของท่านนักเขียน ... 'ทมยันตี' ... 
บุคคลที่ไรต้ายืดถึงเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ไรต้าจะสามารถก้าวตามท่านได้..ในเส้นทางนักแต่งนิยายที่รักความสงบสุขผู้หนึ่งก็เท่านั้น
ดังนั้น ... เจตนาที่ตั้งใจแต่งนิยายเรื่องนี้
ก็มิได้มุ่งหวังหรือเจตนาไม่ดีใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งปวง
ไรต้าเพียงแค่อยากเก็บกลิ่นไอนิยายที่ตนรัก .. มาไว้ในรูปแบบที่ตนจินตนาการของตนเองเท่านั้นเองค่ะ
... หวังว่านักอ่านจะเข้าใจ ...
แตะรับ Link เพื่อโหลดเล่มเต็มได้ที่รูปภาพของแต่ละเรื่องนะคะ สู้ๆ

🌸 น้องน้อยที่รัก : บทที่ 3 (4) Last Sample

นิยายแต่งจบแล้วค่ะ  โหลด eBook ได้เลยนะคะ บทที่ 3 (4)           ... คนยอมรับปาก ...            สุดท้ายก็...